รีวิวหนัง Waiting For Rain

รีวิวหนัง Waiting For Rain

Waiting for Rain ดูหนังออนไลน์ หนังรักสไตล์วัยรุ่นที่จะบรรยายเกี่ยวกับหนุ่มสาวที่ไม่ได้เจอหน้ากัน ไม่มีการจีบกันไปมาแบบตรงๆ ซีนหวานๆจิกมอนก็ไม่ค่อยมีเท่าไร แต่คนดูจะรู้สึกอบอุ่นหัวใจไปกับความรักของเขาและเธอ ที่เหมือนกับผีเสื้อค่อย ๆ บินในท้องของตัวละครอย่างช้า ๆ เขาและเธอไม่เคยพบหน้ากัน

แต่ทั้งคู่ตกหลุมรักกัน มอบพลังบวกให้แก่กันและกัน และพลังบวกนั้นสามารถส่งถึงคนดูได้อีกด้วย เป็นความรักที่เข้ากันกับสถานะการบ้านเมืองตอนนี้เหลือเกิน เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวความโรแมนติกผ่านภาพและองค์ประกอบของหนังได้ดีมาก ตามมาตรฐานหนังเกาหลีเป๊ะ ๆ ใครที่กำลังหา ดูหนังฟรี  Feel Good ดี ๆ สักเรื่อง แนะนำเลย “Waiting for Rain” หนังเกาหลีโรแมนติก เนื้อเรื่องสุดแสนอบอุ่น ที่คุณไม่ควรพลาดถ้าเป็นคอหนังรักโรแมนติก

คังฮานึล รับบทเป็น พัคยองโฮ คังฮานึล รับบทนี้เพราะเหมือนกับชีวิตจริงของเชาหรือเปล่า ? โดยนิสัยจะเป็นคนซื่อ ๆ ขี้อาย ลักษณะนิสัยและการแสดงออกของตัวละครสามารถทำให้คนดูยิ้มตามได้ โดยความ ซื่อตาใสนี้เป็นคาแรคเตอร์ที่น่ารักมากจริง ๆ

ชอนอูฮี รับบทเป็น กงโซฮี เป็นลูกคนสุดท้องของเจ้าของร้านหนังสือ ร้านเพื่อนวรรณกรรม และน้องสาวของกงโซยอน เป็นคนมุ่งมั่น มีความรับผิดชอบ เธออาศัยอยู่ที่ปูซาน เป็นคนน่ารักสดใส แม้ต้องดูแลพี่สาวที่ป่วยหนักแต่เธอก็ยังใช้ชีวิตที่ดี การที่เธอดูแลร้านหนังสือ ทำให้เธอเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน สามารถเขียนจดหมายตอบกลับพระเอกได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว

รีวิวหนัง Waiting For Rain

รีวิวหนัง Waiting For Rain หนังดี

คังโซรา รับบทเป็น ซูจิน เพื่อนร่วมห้องติวของ พัคยองโฮ เขาเป็นคนตรงๆ พูดจาโผงผาง นิสัยแมน ๆ หน่อย ออกฉากไม่มาก เป็นเจ้าแม่คำคมปรัชญาชีวิตเลย เพราะแต่ละประโยคที่นางพูด คือ คูลมาก เช่น “นายคิดว่าเราจะตายไปกับความหวังเดียวเหรอ” “นายไม่เชื่อในโชคชะตาสินะ การเชื่อในโชคชะตาจะจุดประกายชีวิตเรา”

อิมจูฮวาน รับบทเป็น พัคยองฮวาน พี่ชายที่เหมือนจะเก่งและฉลาด มีทุกอย่างพร้อมทั้งหน้าที่การงานหน้าตา เขาสอบเข้ามหาลัยโซลและหน้าที่การงานดี แต่นิสัยไม่ดีเอามาก ๆ เพราะวัน ๆ เอาแต่ทับถม ถากถางน้องชายตัวเอง แม้คำพูดแต่ละคำจะแรงมาก แต่ก็แฝงไปด้วยความหวังดีต่อน้องชาย เช่น “นายโง่เกินกว่าจะรู้ว่าโลกนี้มันโหดร้ายแค่ไหน”

เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการรอคอย รีวิวหนัใหม่เอเชีย ดำเนินเรื่องย้อนไปเมื่อตอน พัคยองโฮ กำลังติวเพื่อจะสอบเข้ามหาลัยโซล โดยเข้าติวถึง 2 ปีรวมกันก็ 3 ครั้งแล้ว แต่เขาก็ยังสอบไม่ติด แม้เขาจะพยายามอย่าหนักแล้วก็ตาม เขาโดนพี่ชายต่อว่าอย่างหนัก ทำให้เขาโมโหและเสียใจ พัคยองโฮนึกย้อนไปถึงเรื่องราวตอนประถม

เลยทำให้นึกถึงเมื่อตอน กงโซยอน รักแรกที่เป็นทั้งเพื่อนคนแรกของเขาอีกด้วย พัคยองโฮไปขอที่อยู่ของกงโซยอนจากเพื่อน เขาส่งจดหมายไปหาเธอ กงโซยอนป่วยหนักน้องสาวของเธอ กงโซฮี เลยเป็นคนเขียนจดหมายตอบกลับแทน โซยอนบอกน้อง ว่าเธอจำเขาไม่ได้

แต่โซฮีคิดว่าถ้าตอบไปแบบนั้นมันคงจะไม่ดี เธอจึงตอบว่าจำเขาได้และขอบคุณที่เขาส่งจดหมายมา นี้คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราว การส่งจดหมายตอบกลับไปมาของทั้งคู่ โดยเรื่องราวความรักแสนอบอุ่นนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป

รีวิวหนัง Waiting For Rain หนังดี

รีวิวหนัง Waiting For Rain หนังดราม่า

ความรู้สึกหลังดู หนังเรื่องนี้สิ่งที่น่าสนใจคือ เนื้อเรื่องไม่ได้เล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา เล่าเรื่องราวแบบให้ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมในการตีความอีกด้วย เรื่องสลับ Timeline ระหว่างปัจจุบันและอดีต โดยเปิดเรื่องมาในตอนปัจจุบันและเล่าย้อนไปอดีตสมัยที่พระเอกยังต้องติวที่สถาบันเพื่อที่จะเข้ามหาลัยโซล

รีวิวหนังใหม่เอเชียน่าดู เริ่มดำเนินเรื่องอย่างง่ายๆ สบายๆ ตัวละครในเรื่องแต่ละตัวมีการพูดแทรกคำคมคติในการใช้ชีวิต และคำคมดี ๆ เยอะมาก การส่งจดหมายคุยกันของพระนางก็น่ารัก น่าเอ็นดู เพราะตอนแรกกงโซฮีตอบกลับว่าจำพระเอกได้เพื่ออย่างน้อยพี่สาวของเธอจะได้มีเพื่อนคุย โดย กฏที่เธอตั้งไว้ในการเขียนจดหมายตอบกลับคือ ห้ามถามคำถาม ห้ามนัดเจอ และห้ามมาเยี่ยม

ถึงพระเอกจะเจอการตั้งข้อกำหนดเมื่อมีการจดหมายตอบกลับ เขาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เป็นโมเมนต์เล็ก ๆที่น่ารักและทำให้หัวใจฟูได้ มันเป็นเรื่องราวที่หลายคนที่ผ่านวัยเขียนจดหมายจีบกันจะได้นึกถึงวันวานยังหวานอยู่ของตัวเอง และคนที่เกิดไม่ทันก็จะได้เห็นว่าสมัยก่อนมันไม่ง่ายเลยที่จะชอบใครสักคนหนึ่ง ดังนั้นความรักในสมัยก่อน และความสัมพันธ์จึงมีค่ายิ่งกว่าทองคำเสียอีก

การดำเนินเนื้อเรื่องและบอกเล่าเรื่องราวก็ดีพอสมควร ไม่น่าเบื่อ คังฮานึล แสดงได้น่ารัก น่าเอ็นดูมาก แม้วัยชีวิตจริงจะเกินบทไปแล้ว แต่ก็ยังถ่ายทอดความรู้สึกและแสดงออกได้ดีมาก ตัวบทในประเด็นการรอจดหมายของทั้งคู่ก็คือดี ตัวละครรอ เราก็รู้สึกรอจดหมายเหมือนตัวละครไปด้วย

มีลูกเล่นในการส่งจดหมายตอบกลับ สามารถดึงคนดูให้มีความรู้สึกร่วมกับตัวละครได้เป็นอย่างดีอีกจุดหนึ่ง นักแสดงในเรื่องแม้จะมีน้อย แต่ทุกตัวละครแสดงออกมาได้ดี และบทพระ-นางคือน่ารัก ลงตัว แม้ไม่มีบทกุ๊กกิ๊กแต่โรแมนติกขั้นสุด

เรื่องราวความรักในวัยเรียนของหนุ่มสาว

Waiting for Rain หรืออีกชื่อว่า Endless Rain เป็นหนังเกี่ยวกับความรักวัยรุ่นที่มีความงดงามในรูปแบบของตัวเองอีกเรื่องหนึ่ง ฉีกวิธีดำเนินความสัมพันธ์ไปจากหนังรักสูตรนิยม ไม่ต้องเห็นหน้าก็เข้าใจกันได้ ไม่ต้องโอบกอดสัมผัสก็อบอุ่นได้ จึงดูไม่จำเจ ไม่หวานเลี่ยน สอดแทรกสาระสมจริง และให้พลังบวกกับชีวิต

เรื่องเล่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะดำเนินแบบค่อยเป็นค่อยไป เพิ่มสเนห์โดยการเล่าเรื่องแบบไม่สนใจในเรื่องของเวลา แต่ร้อยเรียงเหตุการณ์ให้เข้าใจต่อเนื่องได้อย่างครบความ และเป็นบท
หนังที่มีมุมให้ผู้ชมได้คิดตาม ตีความต่อเองได้ด้วย

หนังเล่าเรื่องราวชีวิตของ พัคยองโฮ (รับบทโดย คังฮานึล) สลับไปมาระหว่างปี 2003 ที่เขาอายุ 20 กำลังอยู่ในช่วงติวสอบเข้ามหาวิทยาลัย และปี 2011 ที่เขากลายเป็นหนุ่มเข้าวัย 30 เป็นเจ้าของร้านขายร่มแฮนด์เมดอาร์ต ๆ ที่ชื่อว่า ‘เวิร์คช้อปร่มเปาะแปะ’ แต่เรื่องราวส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงปี 2003 ซึ่งจะเริ่มต้นจากฤดูใบไม้ผลิของปีนั้นไปจนจรด 31 ธันวาคม

ในปี 2003 พัคยองโฮ ลูกชายคนเล็กของเจ้าของร้านตัดเย็บกระเป๋าหนังเล็ก ๆ มีพี่ชายหนึ่งคนที่เรียนเก่ง จบมหาวิทยาลัยโซล มีงานทำอย่างดี ส่วนพัคยองโฮก็วนเวียนกลับมาที่คลาสติวเข้มเข้ามหาวิทยาลัยของสถาบันชื่อดังซ้ำอีกครั้ง ปีนี้เรียนเป็นครั้งที่ 3 แล้ว หลังจากสอบไม่ติดมา 2 ปี ซึ่งปีนี้เขาก็ไม่ยังมีความหวังหรอก ก็เพราะรู้ตัวว่าไม่เก่ง แถมถูกพี่ชาย พัคยองฮวาน (รับบทโดย อิมจูฮวาน) เหน็บแนมตลอดว่าเป็นภาระพ่อ

หนังรักเมโรดราม่า โรแมนติกที่น่าติดตาม

ในปี 2011 บนผนังร้านข้างพื้นที่ทำงานของเขา มีรูปวาด ‘ก๊อกน้ำ’ และ ‘หมวกแก๊ปคู่ ขาวหนึ่งฟ้าหนึ่ง’ มันคือแรงบันดาลใจชีวิต ซึ่งหยิบมาจากส่วนหนึ่งของความทรงจำในวัยเด็กสมัยประถมของเขาที่มีต่อเด็กผู้หญิงเพื่อนร่วมโรงเรียนคนหนึ่ง ที่ชื่อว่า กงโซยอน ซึ่งมีเหตุบังเอิญให้เจอกันครั้งหนึ่งจนทำให้เขาประทับใจในตัวเธอ แม้จะไม่ได้มีโอกาสมากไปกว่านั้น แต่เขาก็ยกให้เธอเป็น ‘รักแรก’ ในใจของเขาไปเองคนเดียว

ในปี 2003 เมื่อตอนที่เขานึกถึง กงโซยอน ขึ้นมา จึงไปสืบหาที่อยู่จากเพื่อนที่เป็นลูกของคุณครูสมัยนั้น และเริ่มต้นเขียนจดหมายไปหาเธอ ซึ่งย้ายไปอยู่ที่ปูซาน ที่บ้านของ กงโซยอน (รับบทโดย อีซอล) เป็นร้านหนังสือมือสองย่อม ๆ ชื่อ ‘เพื่อนวรรณกรรม’

ที่ดูแลโดยแม่และน้องสาว คือ กงโซฮี (รับบทโดย ชอนอูอี) เพราะกงโซยอนป่วยโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาล ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สื่อสารได้ด้วยการกระดิกนิ้วดีดกระดิ่งที่วางไว้ใต้อุ้งมือเมื่อกงโซฮีชี้ป้ายตัวอักษรที่ละหนึ่งตัวให้ตอบรับว่าใช่หรือไม่ เพื่อเรียบเรียงเป็นคำพูดที่ต้องการ

แน่นอนว่า กงโซฮี คือผู้รับจดหมาย และเปิดอ่านให้พี่สาวฟัง รวมทั้งเป็นคนเขียนจดหมายตอบแทนพี่สาวด้วย โดยมิได้บอกความจริงเรื่องนี้กับพัคยองโฮ เธอเปลี่ยนใจไม่ตอบจดหมายไปตามที่โซยอนบอกว่า ไม่รู้จักเขา แต่เปลี่ยนเป็นว่าจำเขาได้ คิดว่าอย่างน้อยพี่สาวก็จะได้มีใครให้คุยเพิ่มด้วยอีกสักคน เธอวางเงื่อนไขการสื่อสารทางจดหมายไว้ว่า พัคยองโฮต้องไม่มีคำถามใด ๆ ไม่คิดนัดพบเจอ และไม่ต้องอยากมาเยี่ยมเยียน

ไม่น่าเชื่อว่า ตลอดช่วง 2-3 ฤดูต่อเนื่องในปีนั้น การคุยกันต่อเนื่องผ่านจดหมายด้วยเรื่องราวเรียบง่ายทั่วไป ประมาณดินฟ้าอากาศ รวมถึงของฝากที่สื่อความหมายจริงใจ ราวกับเป็นการชาร์จแบตชีวิต ต่างค่อย ๆ สะสมความรู้สึกดี ๆ และเติมกำลังใจชีวิตต่อกันโดยไม่รู้ตัว พลอยทำให้ชีวิตพัคยองโฮเติบโตเปลี่ยนแปลง ปักหมุดเห็นเส้นทางอนาคตตัวเอง

และแล้ว ฤดูใบไม้ร่วงปีนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่ยุติการโต้ตอบจดหมาย และเป็นจุดเริ่มต้นการตั้งตารอคอยฝนฤดูหนาวทุกวันที่ 31 ธค.ของ พัคยองโฮ แม้ว่าเรื่องราวหลักจะอยู่กับพัคยองโฮ และสองพี่น้องกง แต่ก็ยังมีตัวละครข้างเคียงที่หยอดแง่คิดชีวิตให้บ้าง

แม้เรื่องราวของพวกเขาจะแทรกเสริมมาอย่างสั้น ๆ ก็ตาม เช่น ลูกค้าหนุ่มเนิร์ด หนอนหนังสือตัวยงในร้านเพื่อนวรรณกรรม หรือ ซูจิน (รับบทโดย คังโซรา) เพื่อนเรียนร่วมสถาบันติวเตอร์กับพัคยองโฮ หรือแม้แต่ พัคยองฮวาน พี่ชายของยองโฮ

ผู้เขียนเองมีความสุขกับการได้เก็บเกี่ยวมุมน่าสนใจนู่นนิดนี่หน่อยจากหนัง เช่น ความที่ท้องเรื่องเป็นร้านหนังสือ ก็จะมีวาทะคม ๆ สอดแทรกมาประปรายในบท มีการพาดพิงถึงหนังของ เลสลีจาง เรื่อง Days of Being Wild (1990) รีวิวหนังใหม่เอเชียดีๆ  ที่ชวนระลึกถึง คิดอยากกลับไปดูซ้ำอีกครั้งเลย หรือความน่าเอ็นดูของรายละเอียดการออกแบบไอคอนชื่อฤดูต่าง ๆ

ไล่ไปจนถึงความเก๋ไก๋ร่มน้องหมา ก็เอาให้ชัดไปเลยว่าร้านนี้คือผู้เชี่ยวชาญทุกร่ม 555 ที่สำคัญต้องอย่าลืมดูให้ครบให้สุด หลัง End credit ท้ายเรื่องแล้วยังมีต่อเป็นบทส่งท้ายที่จะทำใจเราฟูเบิ้ล เป็นกิมมิคอมยิ้มและโบนัสความสุขจากฉากจบที่ผ่านมา

– หนังแนว : เมโรดราม่า โรแมนติก

– เวลา : 1 ชม. 57 น. โดยประมาณ

– นำแสดงโดย คังฮานึล ชอนอูฮี อิมจูฮวาน และคังโซรา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *