รีวิวหนัง Halloween Ends

รีวิวหนัง Halloween Ends

เมื่อการมาถึงของเดือนตุลาคมของทุกปี จะเป็นช่วงที่เหมาะแก่การฉายหนังสยองขวัญ หรือหนังสแลชเชอร์ เข้าฉาย แต่หนังเรื่อง Halloween หนังที่ถูกสร้างมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษจะถูกกล่าวขาลในช่วงเวลานี้มากเป็นพิเศษ และปีนี้ก็จะเป็นการปิดฉากภาพยนตร์ตำนานนักเชือดแห่งฮัดดอนฟิลด์ ไมเคิล ไมเยอร์ กับภาพยนตร์เรื่อง halloween Ends อย่างเป็นการสักที

ดูหนังออนไลน์  จะพาทุกท่านมารับมชม ภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์สยองขวัญไล่เชือดฮาโลวีน ที่เดินทางมาตั้งแต่ Halloween (1978), Halloween (2018), Halloween Kills (2021) และเรื่องนี้ ซึ่งหลังได้ดูแล้วก็คงพูดได้ว่ามันก็เป็นภาคจบจริง ๆ ภาพรวมของหนังก็ไม่ได้รู้สึกน่าพอใจมาก อาจจะชอบกว่าภาค Kills นิด ๆ ที่มันต่อยอดประเด็นและเรื่องราวบางอย่างได้น่าสนใจ

ตามหลังภาค ‘Halloween Kills’ เพียง 11 เดือน ในที่สุด ‘Halloween Ends’ จุดจบของนักฆ่าชื่อดังในยุค 70s – 80s ที่ได้มีการแสดงฝีมือการฆ่ามาถึง 40 ปีที่หลายคนรอคอยกลับมาสานต่อเรื่องราวที่ทิ้งปมไว้ภาคก่อน

ซึ่งต้องยอมรับว่าคุณภาพของหนังภาคที่แล้วไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ดังนั้นการมาของภาคจบบทสรุปอย่าง ‘Halloween Ends’ จึงเหมือนเป็นการกลับมาเรียกศรัทธาและเดิมพันครั้งใหญ่ว่าการปลุกผี ไมเคิล ไมเยอร์ส ครั้งนี้ของ เดวิด กอร์ดอน กรีน (David Gordon Green) จะทำได้สมศักดิ์ศรีตำนานหนังเชือดที่สะสมมาร่วม 40 ปีหรือไม่

ถ้าจะมองในมุมมองของหนังแนวไล่ฆ่าสยองๆ ภาคนี้ถือว่าน่าผิดหวังเลยทีเดียวที่ไม่ได้มอบความสนุกอันน่าสะใจได้มากเลยเท่าไร ซึ่งหนังค่อนข้างเสียเวลาไปกับการปูเรื่องราวตัวละคร การนำพาตัวละครไปสู่สิ่งนั้นตามที่หนังวางไว้ท้ายเรื่อง

รีวิวหนัง Halloween Ends หนังดี

รีวิวหนัง Halloween Ends หนังฝรั่ง

ดังนั้นมันเลยเป็นการทำให้ระหว่างทางมันขาดความสนุก ความระทึก ความโหด ๆ สะใจแบบถึงเครื่องแบบสไตล์หนังไล่เชือด มันก็จะมีความไม่ลงตัวในการผสมผสานความสนุกจากซีนเชือดและสิ่งที่เล่า เลยทำให้หนังมันดูเหนื่อยหน่ายพอสมควร

ดูหนังฟรี  ครั้งนี้เป็นการส่งต่อเรื่องราวจากภาคก่อนหน้า ผ่านการพูดถึงสิ่งเลวร้ายในจิตใจมนุษย์ ทั้งความอคติ ความเกลียดชัง ความทุกข์ ความหดหู่ที่ซึมซับกัดกินสังคม ตัวเมือง รวมทั้งผู้คนเอง โดยสิ่งเหล่านี้ที่เกิดจากผู้คนกันเอง มันสร้างสิ่งที่อันตรายยิ่งกว่าสิ่งที่ปีศาจได้ทิ้งไว้เสียอีก (อย่างไมเคิล เมเยอร์ส) จึงทำให้ภาคนี้มีประเด็นสังคมที่ดูน่าสะเทือนใจและสะท้อนภาพสังคมได้อย่างมาก

แต่ในทางกลับกันตัวละครก็ยังดูขัดหูขัดตาคนดูแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทำให้หนังหมดอย่างมาก ซึ่งโดยเฉพาะช่วงท้ายที่ศักยภาพความระทึกขวัญมันน่าจะดี แต่ก็ถูกกลบไปด้วยข้อกลบของการกระทำที่สุดแสนที่ลงล็อคและลงเอยได้อย่างง่ายดาย แม้บทสรุปมันจะทำให้เราหายเหนื่อยได้สักทีที่ว่ามันคือภาคสุดท้ายแล้วจริง ๆ แต่ก็กลับเป็นภาคสุดท้ายที่ปิดท้ายได้น่าผิดหวังอยู่เช่นกัน

Halloween Ends HD” นับว่าเป็นหนังปิดท้ายการไล่ล่าฆ่าของแฟรนไชส์ฮาโลวีนที่ได้มีมาอย่างเนิ่นนาน ถึงแม้เนื้อหาการสานต่อจะทำออกมาได้ดี และน่าสนใจ แต่ภาพรวมในแง่ของความสนุกและการเป็นหนังบทสรุปจบยังคงน่าผิดหวัง

หนังพูดถึงชายคนนึงที่มีนามว่า คอร์รี คันนิงแฮม เด็กชายผู้โชคร้ายจากค่ำคืนอันน่ากลัว และถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรฆ่าเด็ก เมื่อเวลาผ่านไปครบ 1 ปี เหตุการณ์ความเลวร้ายจากฝีมือของไมเคิล ไมเยอร์ยังไม่จบ และมันได้กลับมาหลอกหลอน ชาวเมืองฮันดอนฟิวด์อีกครั้ง และครั้งนี้ทุกอย่างจะต้องจบลง

รีวิวหนัง Halloween Ends หนังน่าสนใจ

รีวิวหนัง Halloween Ends หนังดี

Halloween ที่ เดวิด กอดอน กรีน ที่ได้ถูกนำมาทำในปี 2018 เป็นการสานต่อเรื่องราวจากปี 1978 เขาก็ทำมันออกมาได้เยี่ยมเลย เรียกว่าเป็นการคืนชีพหนังไล่เชือดตระกูลฮาโลวีนขึ้นมาได้อย่างสง่างามหลังจากที่เละเทะออกไปไกลในช่วงเวลาหลายสิบปี

แต่ทำไมพอมาทำหนังภาคต่อใน Halloween Kills หนังแทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่เลยนอกจากการไล่ฆ่า และสังหารหมู่ ความโกลาหลวุ่นวาย ซึ่งตอนนั้นตัวของไมเคิล ไมเยอร์ แทบจะกลายเป็นปีศาจที่ไม่มีวันฆ่าตายไปแล้ว พอมาถึงภาคปี 2022 นี้จึงไม่ได้ตั้งความหวังอะไรกับตัวหนังมากนัก และพอดูจบแล้วบอกเลยว่าภาคนี้ไม่ผิดหวัง

รีวิวหนังฝรั่ง  เหตุการณ์ใน ‘Halloween Ends เรื่องย่อ’ เริ่มใหม่ในเหตุการณ์ปี 2019 เมื่อคอรี คันนิงแฮม (รับบทโดย โรฮาน แคมป์เบลล์ Rohan Campbell ) เด็กหนุ่มอนาคตไกลต้องมาประวัติด่างพร้อยหลังจากเผลอทำเด็กในดูแลของตนเองตายในคืนวันฮาโลวีน

จากนั้นหนังจะตัดไปที่เหตุการณ์ปัจจุบันที่พาให้คอรีได้มาเจอกับ ลอรี สโตรด (รับบทโดย เจมี ลี เคอร์ติส Jamie Lee Curtis) และอัลลิสัน (รับบทโดย แอนดี เมติแช็ค Andi Matichak) ในช่วงเวลาที่ทั้งแฮดดอนฟีลด์ต่างมองเขาไม่ต่างจากปีศาจ โดยไม่รู้เลยว่าในคืนวันฮาโลวีนที่กำลังจะมาถึง ไมเคิล ไมเยอร์ส กำลังจะกลับมาสร้างตำนานเลือดสาดสะเทือนขวัญแฮดดอนฟีลด์อีกครั้ง

บางสิ่งที่ กรีน และทีมเขียนบทดูเหมือนจะรับรู้เกี่ยวกับบทที่เละเทะไปหมดของ ‘Halloween kills’ ก็คือการย้อนไปหาเรื่องราวที่ทำให้เกิดฆาตกรนามว่า ไมเคิล ไมเยอร์ส อีกครั้งโดยแทบจะไม่กล่าวถึงความโกลาหลอันแสนชุลมุนวุ่นวายในหนังภาคก่อนอีก และการแนะนำตัวละครใหม่อย่าง คอรี คันนิงแฮม

ภาคปิดท้ายการไล่ล่าฆ่าเชือดของฮาโลวีน

ก็กลายเป็นคำถามชั้นดีว่าท้ายสุดแล้วแฮดดอนฟีลด์จะสามารถหลุดพ้นจากฝันร้ายวันฮาโลวีนได้จริงหรือไม่ รวมถึงการตั้งคำถามถึงปีศาจภายในจิตใจที่หนังภาคก่อนพยายามเล่าแต่ไม่สำเร็จได้เป็นชิ้นเป็นอันกว่ากันมาก

รีวิวหนังฝรั่งน่าดู  จุดหนึ่งที่ชอบมากในหนัง ‘Halloween Ends’ คือการพา ลอรี สโตรด กลับมามีความสำคัญกับเรื่องราวอีกครั้ง ทั้งในฐานะผู้นำครอบครัวที่พยายามปกป้องหลานสาวคนเดียวของเธอและในฐานะคนที่พยายามทำให้แฮดดอนฟีลด์ก้าวข้ามฝันร้ายนาม ไมเคิล ไมเยอร์ส ให้ได้ผ่านการโอบอุ้ม คอรี คันนิงแฮม เด็กหนุ่มมีประวัติที่เธอหวังว่าจะทำให้เขาได้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมต่อไปได้

แต่ในขณะเดียวกันฝันร้ายของลอรีและครอบครัวก็กลับมาในรูปแบบของการถูกประณามว่าเป็นต้นเหตุให้หลายครอบครัวต้องสูญเสียคนที่รักไปจากสงครามไล่เชือดในคืนวันฮาโลวีนที่ผ่านมา ซึ่งนี่แหละคือการทำให้ตัวละครนำอย่างสโตรดและการแสดงของ เจมี ลี เคอร์ติส ไม่เสียของ

เพราะการจะเล่าจุดจบที่น่าจดจำก็ควรขุดคุ้ยปมปัญหาตัวละครมาเล่าและพาคนดูก้าวข้ามไปเผชิญหน้ากับปมที่ยังสะสางไม่สำเร็จไปพร้อมกับตัวละคร และสามารถแฟนเซอร์วิสกับสาวกของหนังชุดนี้ได้พอดิบพอดีผ่านช็อตเปิดเรื่องในตำนานที่มาได้ถูกที่ถูกจังหวะ และฉากแฟลชแบ็กที่คราวนี้มาแบบให้คิดถึงหนังภาคก่อน ๆ จนแฟน ๆ น่าจะรื้นไม่น้อยเลยทีเดียว

ถึงอย่างงั้นก็ยังต้องตั้งข้อสังเกตอยู่ดีแม้ว่าจะมีหลายจุดของหนัง Halloween Ends เต็มเรื่อง  ที่น่าพึงพอใจมาก ๆ อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่กระนั้นจุดหักมุมของหนังก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินคาดจนเดาทางไม่ถูก ตรงกันข้ามเมื่อหนังผ่านเวลาไปสักไม่เกินครึ่งชั่วโมงเราก็แทบจะจับทางมันถูกหมดแล้วว่าหนังจะไปลงเอยยังไง เพียงแต่กรีนก็ฉลาดพอที่จะให้บทสรุปในแบบที่คนดูต้องการ แม้จะขาดความท้าทายในการเล่าเรื่องแบบหนังสยองขวัญยุคใหม่ที่เล่นปมจิตวิทยาได้ล้ำลึกกว่าก็ตาม

ไปติดตามเรื่องราวในภาคจบกันเถอะ

จุดที่รู้สึกชอบ แต่กลับต้องมานั่งเสียดายคือฉากโรแมนติกที่ทำให้ดูแปลกใหม่กับในหนังชุด ‘Halloween’ ระหว่างคอรีกับอัลลิสันซึ่งหนังเอาจุดนี้มาเป็นหัวใจหลักของเรื่อง และเป็นจุดที่ทำให้เรื่องราวพลิกผันจนนำไปสู่บทสรุปของหนัง โดยมันมีทั้งข้อดีที่สามารถเอาไปตอกย้ำประเด็นการตื่นจากฝันร้ายที่เรากล่าวไปแล้ว แต่ในขณะเดียวกันกรีนเองก็ดูจะไม่ได้เจาะลึกลงรายละเอียดมากพอจนนำไปสู่การกล่าวถึงปมทางจิตวิทยาที่น่าจดจำมากกว่านี้

แต่อย่างน้อยสิ่งที่ดีงามมาก ๆ จากปมโรแมนติกนี้ก็คือการทำให้คอหนังได้เห็นเสน่ห์ของ แอนดี เมติแช็ค ที่รับบทอัลลิสันเสียทีหลังจากเป็นเพียงตัวประกอบและอาหารตาของคนดูมา 2 ภาคแบบแทบไม่มีความสำคัญกับเรื่องราวเท่าใดนัก แต่ใน ‘Halloween Ends พากย์ไทย   ต้องยอมรับเลยว่าการมีอยู่ของเมติแช็คทำให้หนังตรึงคนดูได้ไม่แพ้เจมี ลี เคอร์ติสที่เป็นตำนานคู่ ‘Halloween’ เลย

ภาคนี้มีจุดที่ทำให้ดูดีตรงการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของตัวละครหลักๆมากกว่าการไล่เชือด และการไล่ล่าไมเคิล ไมเยอร์ เพราะปมของและความสัมพันธ์ของตัวละครที่เกิดขึ้นในภาคนี้ มันอาจจะนำไปสู่การเปิดเฟสใหม่ของหนังตระกูลฮาโลวีนก็เป็นได้ นับเป็นการปิดเฟสเก่าอย่างสมบูรณ์ ตามชื่อเรื่อง

มาพูดถึงฉากหลักๆของหนังที่ต้องไล่ฆ่า ไล่เชือด ฉากสังหารโหดๆ ก็ถือว่ายังสร้างสรรค์ฉากเหล่านี้ออกมาได้โหดเหมือนเดิม และก็ตามชื่อเรื่อง Halloween Ends ซึ่งก็คือจุดจบของไมเคิล ไมเยอร์ เป็นการจบเรื่องราวของนักเชือดสุดโหดในตำนานได้อย่างสมบูรณ์

ในตอนสุดท้ายแต่ละฉากทำออกมาได้ดีมากๆ และตัวของไมเคิล ไมเยอร์ก็อึด ป้าลอรี สโตรท ก็ฉลาดและอึดไม่แพ้กัน และมันควรจะจบได้ตั้งนานแล้ง ส่วนไมเคิล ไมเยอร์จะถูกกำจัดอย่างไรต้องไปดูเอาเอง ขอแอบบอกว่าจบแบบนี้ก็คงไม่น่าจะฟื้นกลับมาได้อีกต่อไปแล้วละ

ก่อนจบ รีวิวหนังฝรั่งน่าสนใจ  เรื่องราวของไมเคิล ไมเยอร์ หนังจะมีการ Flash Back ไปยังเหตุการณ์สำคัญฉากสำคัญ ของหนัง halloween ในภาคก่อนหน้านี้ เพื่อให้แฟนหนังได้ระลึกถึงเรื่องราวของฆาตกรผู้นี้ที่มีมาร่วม 40 ปี ก่อนที่จะมีการปิดฉากของฆาตกรตัวนี้อย่างสมบูรณ์ด้วย ก็เรียกได้ว่าเป็นการปิดฉากอั้นสุดแสนประทับใจ

Halloween Ends รีวิว  เป็นหนังที่สร้างมาเพื่อปิดฉากตัวละครอย่าง ไมเคิล เมเยอร์ นับตั้งแต่ 1978 ให้มันจบลงอย่างสมบูรณ์แบบในภาคนี้ และถ้าหากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของภาพยนตร์ชุดนี้ จะรู้สึกสนุกกับหนังมาก ๆ แนะนำว่าต้องไปดูแบบไม่ต้องลังเล

ในฐานะของแฟนหนังเฟรนไชน์ Halloween นับเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำมากมายนับ 40 ปี และแม้ว่า Halloween Ends ภาคนี้อาจจะไม่เด่นหรือไม่ได้ดีอะไรมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นการจบเรื่องราวของไมเคิล ไมเยอร์ได้อย่างสมบูรณ์ และเจ้าฆาตกรตัวนี้อาจถูกสานต่อในฐานะฆาตกรและนักเชือดตัวใหม่ก็เป็นได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *